Webflow vs WordPress vs Wix vs Shopify – เปรียบเทียบจุดเด่น & ใครเหมาะกับใคร

บทนำ: ทำเว็บยุคนี้ ไม่ใช่แค่ “มีเว็บ” แต่ต้อง “เลือกให้ถูก”
คุณกำลังจะเริ่มทำเว็บไซต์…
เปิด Google แล้วพบว่ามีแพลตฟอร์มเต็มไปหมด:
WordPress, Webflow, Wix, Shopify
แล้วเราควรเลือกอะไรดี?
แพลตฟอร์มไหน “เหมาะกับธุรกิจของเรา” ที่สุด?
เพราะแต่ละตัวมีจุดแข็ง-จุดอ่อนต่างกัน
การเลือกผิดตั้งแต่แรกอาจทำให้คุณเสียเวลา เสียเงิน และโตช้ากว่าคู่แข่ง
บทความนี้จะช่วยคุณเปรียบเทียบแบบชัด ๆ
พร้อมตัวอย่าง และข้อเสนอแนะว่าธุรกิจแบบไหนควรเลือกอะไร
🗂 สารบัญ
- ทำไมการเลือกแพลตฟอร์มให้ถูกสำคัญมาก?
- ตารางเปรียบเทียบ: Webflow vs WordPress vs Wix vs Shopify
- เจาะลึกแต่ละแพลตฟอร์ม: ข้อดี-ข้อเสีย + ใครเหมาะสุด
- ถ้าอยากเน้น SEO + UX + โตต่อ → เลือกอะไรดี?
- ตัวอย่างธุรกิจจริงที่เลือกแพลตฟอร์มแล้วได้ผลลัพธ์ดี
- คำแนะนำจาก Vision X Brain
- FAQ: คำถามที่พบบ่อย
- ตาคุณแล้ว
1. ทำไมการเลือกแพลตฟอร์มให้ถูกสำคัญมาก?
เว็บไซต์เปรียบเสมือน “หน้าร้านออนไลน์”
ถ้าร้านคุณช้า เข้ายาก หรือปรับปรุงไม่ได้ทันเวลา → คนก็แค่ “เดินออกไป”
การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม = รากฐานสำคัญที่ทำให้เว็บคุณ “โตได้จริง”
2. ตารางเปรียบเทียบ: Webflow vs WordPress vs Wix vs Shopify
แพลตฟอร์มข้อดีข้อเสียเหมาะกับใครWebflowดีไซน์อิสระ, โหลดไว, SEO ดี, UX ยืดหยุ่นต้องเข้าใจ UX นิดนึง, ราคาสูงกว่ารายอื่นStartup, ธุรกิจจริงจัง, เอเจนซี่, สาย GrowthWordPressฟรี, มีปลั๊กอินมากมายช้า, เว็บพังง่าย, ต้องอัปเดตบ่อยBlog, เว็บทั่วไป, ผู้เริ่มต้นWixใช้ง่ายมาก, เหมาะกับมือใหม่จำกัดดีไซน์, ไม่ยืดหยุ่นสำหรับการขยายพอร์ตโฟลิโอ, ธุรกิจรายย่อยShopifyระบบขายดีมาก, รองรับ E-Commerce เต็มรูปแบบปรับดีไซน์ยาก, แพงเมื่อโตร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะ
3. เจาะลึกแต่ละแพลตฟอร์ม: ข้อดี-ข้อเสีย + ใครเหมาะสุด
✅ Webflow
ข้อดี:
- สร้างเว็บเร็ว + UX ระดับมืออาชีพ
- ปรับโครงสร้าง SEO ได้หมด
- ไม่ต้องใช้ปลั๊กอิน = เว็บไม่พัง
- โหลดเร็วมาก (CDN + Code Clean)
ข้อเสีย:
- ต้องเข้าใจ UX พอสมควร
- ไม่ใช่สาย E-Commerce โดยตรง
เหมาะกับ:
- ธุรกิจที่เน้น Branding + UX
- Startup ที่ต้องการ Landing Page เร็ว
- เอเจนซี่ / Creative / SaaS / Healthtech
✅ WordPress
ข้อดี:
- ฟรี
- ปลั๊กอินเยอะมาก (เช่น SEO, Contact Form, WooCommerce)
- มีธีมให้เลือกหลายแสน
ข้อเสีย:
- ช้า ถ้าไม่ Optimize
- ต้องอัปเดตตลอด (Core + Theme + Plugin)
- เว็บพังง่ายถ้า Plugin Conflict
เหมาะกับ:
- Blogger
- ธุรกิจเล็กที่ยังไม่เน้น SEO มาก
- คนที่มีเวลาเรียนรู้ระบบหลังบ้าน
✅ Wix
ข้อดี:
- ใช้งานง่ายสุด ๆ
- มี Template เยอะ
- ไม่ต้องมีความรู้เทคนิคเลย
ข้อเสีย:
- ปรับ UX/UI ไม่อิสระ
- โครงสร้าง SEO ไม่ลึก
- ไม่เหมาะกับเว็บที่ต้องการขยายต่อ
เหมาะกับ:
- ช่างภาพ / นักออกแบบ / ฟรีแลนซ์
- ธุรกิจรายย่อยที่เน้นความง่าย
✅ Shopify
ข้อดี:
- สร้างร้านออนไลน์ได้ทันที
- ระบบตะกร้า, เช็คเอาท์, รายงานยอดขายดีมาก
- รองรับการขายหลายประเทศ
ข้อเสีย:
- ค่าใช้จ่ายสูง
- ปรับ UX/UI ได้จำกัด
- SEO มีข้อจำกัดบางส่วน
เหมาะกับ:
- ร้านค้าออนไลน์
- E-Commerce ที่เน้น Transaction
- ธุรกิจที่มีสินค้าหลาย SKU
4. ถ้าอยากเน้น SEO + UX + โตต่อ → เลือกอะไรดี?
เป้าหมายแพลตฟอร์มที่เหมาะที่สุดอยากให้เว็บติด Google✅ Webflow / WordPressอยากให้ UX สวย ดูโปร✅ Webflowอยากทำเว็บเองโดยไม่พึ่ง Dev✅ Wix / Webflowอยากขายของทันที✅ Shopifyอยากทำเว็บ Landing Page แคมเปญ✅ Webflow
5. ตัวอย่างธุรกิจจริงที่เลือกแพลตฟอร์มแล้วได้ผลลัพธ์ดี
🔹 SaaS Startup ใช้ Webflow
- ปรับ UX ใหม่ใน 10 วัน
- SEO ติดหน้าแรกใน 3 เดือน
- Sign-up เพิ่มขึ้น 240%
🔹 ร้านเสื้อผ้าออนไลน์ใช้ Shopify
- ขายได้กว่า 2 ล้านในปีแรก
- ใช้ Theme + ระบบตะกร้าของ Shopify
- เชื่อมกับ Facebook & IG ได้ดี
🔹 Blogger ใช้ WordPress
- ลงบทความทุกสัปดาห์
- ใช้ Plugin Rank Math SEO
- Organic Traffic > 10K/เดือน
6. คำแนะนำจาก Vision X Brain
เลือกให้ตรง “เป้าหมายธุรกิจ”
ไม่ใช่เลือกเพราะ "ใคร ๆ ก็ใช้"
ถ้าเป้าหมายของคุณคือ:
- การเติบโต
- UX ที่ดี
- เว็บไซต์ที่จัดการง่าย
- SEO ที่พร้อม
- เว็บที่ดูโปร
Webflow คือคำตอบที่ดีที่สุดตอนนี้
💼 Vision X Brain – ที่ปรึกษา Webflow & UX สำหรับธุรกิจที่อยากโต
เราช่วยคุณ:
- เปรียบเทียบและเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับธุรกิจ
- ออกแบบ UX บน Webflow เพื่อ Conversion
- ทำ SEO & Blog CMS บน Webflow
- ย้ายจาก WordPress / Wix มา Webflow โดยไม่ตกอันดับ
- เชื่อมระบบ CRM, Analytics, Pixel ได้ครบ
📞 [ปรึกษาฟรี | เปรียบเทียบแพลตฟอร์มกับผู้เชี่ยวชาญตัวจริง]
7. FAQ: คำถามที่พบบ่อย
❓ Q: ถ้าจะเริ่มต้นแบบง่าย ๆ ควรใช้ Wix หรือ WordPress?
A: ถ้าอยากทำเองง่าย ๆ ใช้ Wix ได้เลยครับ แต่ถ้าคิดจะโตในอนาคต WordPress มีความยืดหยุ่นมากกว่า
❓ Q: ถ้าย้ายจาก WordPress มา Webflow จะยากไหม?
A: ไม่ครับ! Webflow รองรับการนำเข้าคอนเทนต์ และเราช่วยวาง Redirect + SEO ใหม่ให้ไม่ตกอันดับ
❓ Q: Shopify กับ Webflow ใครขายของเก่งกว่า?
A: Shopify เหมาะกับ E-Commerce โดยเฉพาะ แต่ถ้าเน้น Branding + Storytelling ก่อนขาย → Webflow ตอบโจทย์กว่า
8. ตาคุณแล้ว
เปิดเว็บไซต์ของคุณ…แล้วลองถามตัวเองว่า:
“เว็บของเรากำลังสนับสนุนการเติบโต หรือกำลังเป็นภาระ?”
ถ้ายังไม่แน่ใจ
อาจถึงเวลาที่คุณต้องเลือก “เครื่องมือ” ที่พาธุรกิจไปได้ไกลกว่าเดิม
📩 Vision X Brain พร้อมช่วยคุณวางกลยุทธ์เว็บให้เหมาะกับธุรกิจจริง ๆ 🚀
"ต้าคือผู้เชี่ยวชาญด้าน Webflow ตัวจริง! เว็บไซต์ของเราพัฒนาเร็วขึ้น 3 เท่า และ Conversion เพิ่ม 10X!"

Recent Blog

เจาะลึกเทคนิคทำ SEO บน Webflow ให้ติด Google หน้าแรกภายใน 4 สัปดาห์ ใช้ได้จริงทั้งโครงสร้าง H1-H6, Slug, Meta, CMS Blog และการเพิ่ม Page Speed พร้อมตัวอย่างและคำแนะนำจากมืออาชีพ

เจาะลึก 7 ฟีเจอร์ลับบน Webflow ที่เจ้าของเว็บมืออาชีพใช้เพิ่มยอดขายและ SEO! เช่น Webflow CMS, Animation, Zapier Integration, Client Mode และ Localization พร้อมตัวอย่างการใช้จริง

เจาะลึก 3 โครงสร้างหน้าเว็บที่ Webflow ใช้แล้ว Conversion พุ่ง! ตั้งแต่ Above the Fold ที่ดึงดูด, Trust Section ที่เพิ่มความมั่นใจ และ CTA Loop ที่ปิดการขายในทุก Section พร้อมตัวอย่าง UX จริง