🔥 แค่ 5 นาที เปลี่ยนมุมมองได้เลย

Shopify VS WooCommerce: เปิดร้านออนไลน์เลือกแพลตฟอร์มไหนดี?

ยาวไป อยากเลือกอ่าน?

บทนำ: คำถามโลกแตกของสาย eCommerce – Shopify หรือ WooCommerce?

หากคุณกำลังจะเริ่มต้นร้านค้าออนไลน์ หรือกำลังคิดจะย้ายระบบ
คำถามที่เจอบ่อยที่สุดก็คือ...

“ระหว่าง Shopify กับ WooCommerce เราควรเลือกอะไรดี?”

ทั้งสองแพลตฟอร์มนี้เป็นเครื่องมือสร้างร้านค้าออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก
แต่มีโครงสร้าง วิธีการใช้งาน และข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันอย่างมาก

บทความนี้จะช่วยคุณ เปรียบเทียบ Shopify VS WooCommerce แบบเจาะลึก
เพื่อให้คุณเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะกับ “รูปแบบธุรกิจและทรัพยากรที่คุณมี” มากที่สุด

🗂 สารบัญ

ภาพรวม: Shopify VS WooCommerce ต่างกันอย่างไร?

คุณสมบัติหลักShopifyWooCommerceประเภทระบบSaaS (บริการรายเดือน)Plugin บน WordPress (Open-source)ความง่ายในการเริ่มต้นง่ายมาก (คลิกไม่กี่ครั้ง)ต้องติดตั้ง WordPress ก่อนความยืดหยุ่นปานกลาง (อยู่ในกรอบของระบบ)สูงมาก (ปรับแต่งได้ทุกจุด)ค่าธรรมเนียมมีค่าใช้จ่ายรายเดือน + ค่าธรรมเนียมต่อรายการฟรี (จ่ายเฉพาะ Hosting + Plugin เสริม)การดูแลระบบShopify ดูแลให้ทั้งหมดผู้ใช้ต้องดูแลเองทั้งหมด

ข้อดีของ Shopify

✅ ใช้งานง่ายมาก

  • ไม่ต้องมีความรู้เรื่องเทคนิคหรือโค้ด
  • ตั้งร้านได้ใน 10-15 นาที

✅ ระบบครบในตัวเดียว

  • ระบบจัดการสินค้า, คลัง, ขนส่ง, การชำระเงิน ครบวงจร
  • มี App Marketplace ให้เสริมฟีเจอร์

✅ รองรับการขายระดับโลก

  • เชื่อมต่อกับ Facebook, Instagram, Google Shopping ได้ในไม่กี่คลิก
  • รองรับหลายสกุลเงินและหลายภาษา (Shopify Markets)

✅ ความเสถียรสูง

  • ไม่ต้องกลัวเว็บล่มเวลา Traffic เยอะ
  • Shopify ดูแลเรื่อง Hosting และ Security ทั้งหมด

ข้อดีของ WooCommerce

✅ ฟรี และยืดหยุ่นสูง

  • ตัวปลั๊กอินพื้นฐานฟรี 100%
  • ปรับแต่งได้ทุกอย่าง (HTML, CSS, PHP)

✅ เหมาะกับคนที่ใช้ WordPress อยู่แล้ว

  • สามารถเพิ่มร้านค้าออนไลน์ลงในเว็บไซต์ WordPress เดิมได้เลย

✅ มีปลั๊กอินให้เลือกใช้จำนวนมหาศาล

  • ทั้งฟรีและเสียเงิน เช่น ระบบจัดส่ง, สั่งซื้อซ้ำ, ระบบสมาชิก ฯลฯ

✅ คุม Hosting และระบบเองได้หมด

  • เลือกเซิร์ฟเวอร์ ความเร็ว ปลอดภัย ได้ตามใจ

ข้อเสียของแต่ละแพลตฟอร์ม

❌ Shopify

  • มีค่าใช้จ่ายรายเดือน (เริ่มต้นที่ $39/เดือน)
  • ถ้าใช้ Payment Gateway ภายนอก อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
  • จำกัดความสามารถด้าน Custom ถ้าไม่ใช้ Shopify Plus

❌ WooCommerce

  • ต้องดูแลระบบ Hosting, ความปลอดภัย, การอัปเดตเอง
  • ถ้าใช้ Plugin เยอะอาจทำให้เว็บช้าหรือไม่เสถียร
  • อาจต้องใช้ Developer ถ้าต้องการปรับแต่งซับซ้อน

เปรียบเทียบด้านต่าง ๆ: ใช้งานจริง

หัวข้อShopifyWooCommerceเวลาเริ่มต้นใช้งานเร็วมากปานกลาง – ต้องติดตั้งหลายอย่างค่าดูแลระยะยาวรายเดือน (คงที่)เปลี่ยนแปลงตามการใช้งานจริงความยืดหยุ่นในการออกแบบปานกลาง (ใช้ Theme + Custom Code ได้บางส่วน)สูงมาก (แก้ได้ทุกจุด)ความเร็วเว็บไซต์เร็วและเสถียรขึ้นอยู่กับ Hosting และโค้ดการขายข้ามประเทศมีระบบรองรับในตัวต้องใช้ปลั๊กอินเสริมSEOดี (แต่ต้อง Optimize เพิ่ม)ยอดเยี่ยม (WordPress + Yoast SEO)

ธุรกิจแบบไหนเหมาะกับแพลตฟอร์มไหน?

✅ Shopify เหมาะกับ:

  • เจ้าของธุรกิจที่ “ไม่ถนัดเทคโนโลยี” แต่ต้องการขายเร็ว
  • คนที่อยากโฟกัสที่การตลาดและยอดขาย ไม่อยากวุ่นวายกับระบบ
  • ธุรกิจที่ต้องการความเสถียรสูง และรองรับการ Scale ทั่วโลก

✅ WooCommerce เหมาะกับ:

  • คนที่มีเว็บไซต์ WordPress อยู่แล้ว
  • ธุรกิจที่ต้องการ Custom ระบบเฉพาะทาง เช่น ระบบสมาชิก, Course Online, ระบบจอง
  • มีทีม Developer หรือมีความรู้ด้านเว็บไซต์พอสมควร

สรุป: Shopify หรือ WooCommerce ดีกว่ากันแน่?

คำตอบคือ: “ขึ้นอยู่กับคุณ”

หากคุณต้องการความเร็ว ความง่าย และไม่อยากยุ่งกับระบบ → Shopify คือตัวเลือกที่ดีที่สุด
หากคุณต้องการควบคุมทุกอย่างเอง มีทีม Developer และต้องการระบบเฉพาะทาง → WooCommerce ตอบโจทย์กว่า

📌 และหากคุณยังลังเล… Vision X Brain ช่วยคุณได้!

🎯 Vision X Brain – ผู้เชี่ยวชาญ Shopify และ WooCommerce Development

เราช่วยคุณ:

  • วิเคราะห์ธุรกิจและเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะที่สุด
  • สร้างร้านออนไลน์ด้วย Shopify หรือ WooCommerce อย่างมืออาชีพ
  • ปรับ UX/UI, SEO, และ CRO เพื่อเพิ่มยอดขาย
  • พัฒนาเว็บให้พร้อมขยายสเกลในอนาคต

📞 [ปรึกษาฟรี คลิกที่นี่]

FAQ: คำถามที่พบบ่อย

❓ Q: Shopify เหมาะกับขายสินค้าประเภทใด?

A: เหมาะกับสินค้าทั่วไป เช่น เสื้อผ้า, อาหารเสริม, Gadget ที่ต้องการความเร็วในการขาย

❓ Q: WooCommerce ใช้ฟรีจริงไหม?

A: ใช้ฟรีจริงสำหรับตัว Plugin แต่ยังต้องเสียค่า Hosting, Theme, และ Plugin เสริม

❓ Q: ถ้าเริ่มต้นจาก Shopify แล้วอยากย้ายไป WooCommerce ได้ไหม?

A: ได้ครับ แต่อาจต้องมีทีม Dev ช่วยย้ายข้อมูล เช่น รายการสินค้า, ลูกค้า, Order

❓ Q: SEO Shopify กับ WooCommerce อันไหนดีกว่า?

A: WooCommerce ได้เปรียบเพราะอยู่บน WordPress แต่ Shopify ก็สามารถทำ SEO ได้ดีถ้าตั้งค่าเหมาะสม

❓ Q: สร้างเว็บด้วยตัวเองดีไหม หรือจ้างทีมมืออาชีพดีกว่า?

A: ถ้าอยากเริ่มไวและไม่อยากลองผิดลองถูก → จ้างทีมที่มีประสบการณ์จะคุ้มกว่า

❓ ยังมีคำถาม? ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรีตอนนี้เลย!

💡 ไม่ว่าคุณจะเริ่มใหม่หรืออยากย้ายแพลตฟอร์ม
ทักหาเราตอนนี้เพื่อประเมินฟรีว่า Shopify หรือ WooCommerce เหมาะกับคุณมากที่สุด

👉 [คุยกับเราตอนนี้ | ปรึกษาฟรี]

แชร์

Recent Blog

ทำ SEO บน Webflow อย่างไรให้ติดหน้าแรกภายใน 4 สัปดาห์?

เจาะลึกเทคนิคทำ SEO บน Webflow ให้ติด Google หน้าแรกภายใน 4 สัปดาห์ ใช้ได้จริงทั้งโครงสร้าง H1-H6, Slug, Meta, CMS Blog และการเพิ่ม Page Speed พร้อมตัวอย่างและคำแนะนำจากมืออาชีพ

7 ฟีเจอร์เด็ดบน Webflow ที่เจ้าของเว็บหลายคนยังไม่เคยใช้!

เจาะลึก 7 ฟีเจอร์ลับบน Webflow ที่เจ้าของเว็บมืออาชีพใช้เพิ่มยอดขายและ SEO! เช่น Webflow CMS, Animation, Zapier Integration, Client Mode และ Localization พร้อมตัวอย่างการใช้จริง

3 โครงสร้างหน้าเว็บ Webflow ที่ขายได้จริง (พร้อมตัวอย่าง UX)

เจาะลึก 3 โครงสร้างหน้าเว็บที่ Webflow ใช้แล้ว Conversion พุ่ง! ตั้งแต่ Above the Fold ที่ดึงดูด, Trust Section ที่เพิ่มความมั่นใจ และ CTA Loop ที่ปิดการขายในทุก Section พร้อมตัวอย่าง UX จริง

💡 เว็บเก่าช้า โหลดนาน คนเข้าแล้วไม่ซื้อ? ถึงเวลาปรับใหม่ให้ธุรกิจคุณโตไว x10!

🔥 อัปเกรดเว็บไซต์ให้ "เวิร์ก" กว่าเดิม! เพิ่มยอดขาย + ติดอันดับง่าย

📌 รับประเมินเว็บไซต์ฟรี – จำกัดจำนวน! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญตัวจริง ไม่ใช่ AI หรือระบบบอท 🚀
📢 อัปเกรดวันนี้ → เพิ่มยอดขาย ติดอันดับเร็วขึ้น x3!
1
✅ ออกแบบใหม่ให้ใช้งานง่าย → เพิ่มความน่าเชื่อถือ ลูกค้ากล้าซื้อ!
✅ ลด Bounce Rate 50% → คนเข้าเว็บแล้วอยู่ต่อ ไม่หนีไปไหน
2
✅ Core Web Vitals 90+ → โหลดไว x3 ไม่เสียลูกค้า
✅ SEO-Driven Design → ติด Google หน้าแรกง่าย x3 โดยไม่ต้องยิง Ads
3
✅ ปรับ UX ตามพฤติกรรมลูกค้า → คลิกง่าย ซื้อสะดวกขึ้น!
✅ สร้างเว็บไซต์ให้ "เวิร์ก" ไม่ใช่แค่สวย!
กว่า 100+ ธุรกิจ ไว้ใจให้เราดูแล
Thank you! Your submission has been received!
Oops! Something went wrong while submitting the form.